ในที่สุด Nicki Minaj ก็เปิดตัวอัลบั้ม Pink Friday 2 ที่รอคอยมานานของเธอ ซึ่งเป็นการฟื้นคืนชีพของเธอในแนวแร็พและเน้นความก้าวหน้าของเธอในฐานะศิลปิน อัลบั้มนี้เต็มไปด้วยแขกรับเชิญจากยักษ์ใหญ่ในวงการเช่น Drake, J. Cole, Lil Wayne และ Lil Uzi Vert ได้รับการตอบสนองด้วยความกระตือรือร้นจากแฟน ๆ และนักวิจารณ์
หลังจากสะบักสะบอมสองปีมินาจกลับมาพร้อมกับความปังโดยส่งมอบการแสดงที่มีศักยภาพและบัญชาการใน Pink Friday 2 อัลบั้มนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถของเธอและแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเธอในการเปลี่ยนระหว่างแนวแร็พและป๊อปได้อย่างราบรื่น อัลบั้มนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงจากงานก่อนหน้าของเธอโดยมินาจเอนเอียงเข้าไปในจุดแข็งของเธอในฐานะแร็ปเปอร์และนําเสนอบทกวีที่ตียากซึ่งเน้นความคล่องแคล่วในโคลงของเธอ
หนึ่งในเพลงที่โดดเด่นในอัลบั้มคือ "Big Difference" ซึ่งเป็นเพลงที่รวบรวมความเฉลียวฉลาดและความมั่นใจที่ไม่สั่นคลอนของมินาจได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในการติดตามเธอยืนยันความเหนือกว่าคู่แข่งของเธอโดยอุทานว่า "มันเป็นความแตกต่างอย่างมากระหว่างฉันกับคุณ" บรรทัดนี้ทําหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจถึงสถานะของเธอในฐานะไอคอนแร็พและกําหนดอารมณ์สําหรับส่วนที่เหลือของอัลบั้ม
Pink Friday 2 ยังเจาะลึกประเด็นที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นโดยมินาจเปิดใจเกี่ยวกับความรู้สึกผิดและประสบการณ์ของการเป็นแม่ ในการสนทนากับ Vogue เธอเปิดเผยว่าเพลง "Last Time I Saw You" กล่าวถึงความรู้สึกผิดและการตระหนักว่าเรามักจะมองข้ามคนที่เรารัก แทร็กที่ครุ่นคิดนี้เพิ่มความลึกอีกชั้นหนึ่งให้กับอัลบั้มและแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของมินาจในฐานะศิลปิน
การผลิตใน Pink Friday 2 นั้นยอดเยี่ยมด้วยการสนับสนุนจากโปรดิวเซอร์ที่มีชื่อเสียงเช่น Finneas, Murda Beatz และ Boi-1da บรรยากาศอารมณ์ดีของอัลบั้มและการผลิตที่สร้างสรรค์เป็นฉากหลังที่น่าดึงดูดใจสําหรับเสียงร้องที่สั่งการของมินาจและเนื้อเพลงที่กระตุ้นความคิด
แม้ว่า Pink Friday 2 อาจไม่มีท่อนฮุคที่เป็นมิตรกับวิทยุในทันทีของเพลงฮิตก่อนหน้านี้ของมินาจ แต่ก็เป็นข้อพิสูจน์ถึงศิลปะและวุฒิภาวะของเธอในฐานะศิลปิน อัลบั้มนี้เสี่ยงและสํารวจดินแดนโซนิคใหม่ ๆ ทําให้มินาจเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีความสามารถหลากหลายและมีความสามารถมากที่สุดในอุตสาหกรรม
Pink Friday 2 เป็นชัยชนะของ Nicki Minaj มันแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของเธอในฐานะศิลปินและเน้นย้ําถึงจุดแข็งของเธอในฐานะแร็ปเปอร์ ด้วยเนื้อเพลงที่ทรงพลังคุณสมบัติแขกรับเชิญที่น่าประทับใจและการผลิตที่เป็นนวัตกรรมใหม่อัลบั้มนี้จึงเป็นเพลงที่แฟน ๆ ของแนวเพลงต้องฟัง การกลับมาของมินาจในวงการแร็พแน่นอนว่าจะสร้างกระแสในวงการและตอกย้ําสถานะของเธอในฐานะหนึ่งในศิลปินที่มีอิทธิพลมากที่สุดในยุคของเธอ